วอลเปเปอร์มีหลายชนิดที่เหมาะสมกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านการดูแลรักษา ความทนทาน และลักษณะการติดตั้ง ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในห้องหรือพื้นที่ต่างๆ นี่คือลักษณะของวอลเปเปอร์ชนิดต่างๆ
1. วอลเปเปอร์ชนิดกระดาษ (Duplex Wallpaper)
- ลักษณะ: เป็นวอลเปเปอร์ชนิดกระดาษเป็นวัสดุบุผนังที่ผลิตจากกระดาษพิมพ์ลายอย่างเดียว ไม่ได้เคลือบหน้าด้วยอะไรทั้งสิ้นแต่อาจมีการเคลือบมันบ้างที่ผิวหน้า
- ข้อดี: ราคาถูก, หาซื้อได้ง่าย, มีลวดลายหลากหลาย
- ข้อเสีย: ไม่ทนน้ำ, ไม่ทนทานต่อการใช้งานหนัก, รักษายาก, อาจเกิดรอยขาดได้ง่าย
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนในบ้านที่ไม่ได้มีความชื้นสูง
2. วอลเปเปอร์ชนิดพีวีซี (PVC Wallpaper)
- ลักษณะ: วอลเปเปอร์ที่มีชั้นพลาสติก PVC เคลือบผิวด้านบนเพื่อเพิ่มความทนทาน
- ข้อดี: ทนทานต่อความชื้นและน้ำ, ทำความสะอาดง่าย, ทนต่อการขัดถู
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง, หากติดไม่ดีอาจหลุดลอก
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับห้องครัว ห้องน้ำ หรือพื้นที่ที่ต้องการความทนทานต่อความชื้นและทำความสะอาดได้ง่าย
3. วอลเปเปอร์ชนิดผ้า (Fabric Wallpaper)
- ลักษณะ: Fabric Backing Wallpaper หรือ วอลเปเปอร์ผ้า ที่ใช้วัสดุสิ่งทอแทนกระดาษและเคลือบผิวหน้าด้วยสาร PVC จึงมีความทนทานสูง ป้องกันแรงกระแทกได้ดี อีกทั้งสามารถผลิตออกเป็นลวดลายที่หลากหลาย
- ข้อดี: สัมผัสเนียนนุ่ม, ดูหรูหรา, มีลวดลายสวยงามและหลากหลาย
- ข้อเสีย: ทำความสะอาดยาก, อาจเก็บฝุ่นได้มาก, ราคาสูง
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการตกแต่งหรูหรา เช่น ห้องรับแขก, ห้องนั่งเล่น
4. วอลเปเปอร์ไวนิล (Vinyl Wallpaper)
- ลักษณะ: ไวนิล เป็นวัสดุบุผนังที่ผลิตจากกระดาษเคลือบผิวหน้า (Surface) ด้วยสารประเภทไวนิลพิมพ์สีและใช้การกดลาย (Emboss) เพื่อให้เกิดลวดลาย ในบางชนิดมีการทำรีจิสเตอร์ (Register) เพื่อเพิ่มเส้นของลวดลายต่างๆ วอลเปเปอร์ไวนิลมีลักษณะผิวหน้ามันและผิวแบบด้าน เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะสามารถเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยน้ำ ดูแลรักษาง่าย ไม่เป็นที่เกาะของฝุ่นละอองเหมาะกับการติดตั้งผนังทั่วไป
- ข้อดี: ทนทานสูง, กันน้ำ, ทำความสะอาดง่าย, เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก
- ข้อเสีย: ราคาค่อนข้างสูง, อาจมีกลิ่นจากวัสดุในช่วงแรก
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับห้องครัว, ห้องน้ำ, พื้นที่ที่มีความชื้น หรือห้องที่มีการใช้งานสูง
5. วอลเปเปอร์ชนิดฟอยล์ (Foil Wallpaper)
- ลักษณะ: วอลเปเปอร์ที่มีการเคลือบฟอยล์อลูมิเนียมให้ความเงางามและแวววาว
- ข้อดี: ดูหรูหราและเงางาม, สร้างความรู้สึกของพื้นที่ที่กว้างขึ้น
- ข้อเสีย: สามารถแสดงให้เห็นรอยผนังหรือรอยเชื่อมได้ชัดเจน, รอยขูดขีดอาจเห็นได้ง่าย
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับตกแต่งในพื้นที่ที่ต้องการความหรูหรา เช่น ห้องรับแขก, ห้องทานอาหาร
6. วอลเปเปอร์ชนิดชนิดผิวพรีเมียม (Textured Wallpaper)
- ลักษณะ: วนวัตกรรมใหม่ที่ผลิตจากเส้นใยเซลลูโลส โดยไม่ต้องใช้เยื่อไม้จากป่าสนในการทำวัตถุดิบ แต่เป็นเทคโนโลยีจากอุตสาหกรรมปิโตรเลียม
- ข้อดี: เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในตลาดยุโรป อีกทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในตลาดโลก
- ข้อเสีย: ทำความสะอาดยาก, ราคาแพง, อาจติดตั้งยากกว่าวอลเปเปอร์ทั่วไป
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับการตกแต่งห้องที่ต้องการให้มีบรรยากาศพิเศษ เช่น ห้องนั่งเล่น, ห้องทำงาน
7. วอลเปเปอร์นอนวูเว่น (Non-Woven Wallpaper)
- ลักษณะ: วอลเปเปอร์ที่มีโครงสร้างฟองน้ำซึ่งช่วยดูดซับเสียงและความชื้น
- ข้อดี: ช่วยลดเสียงสะท้อน, ทนทาน, เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีเสียงดัง
- มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายกว่ากระดาษทนทานมากกว่าในด้านความเหนียว ฉีกขาดยากสามารถระบายความชื้นได้ดีกว่ากระดาษ ลอกออกง่ายสำหรับการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ (Repealable) ใหม่ และลดปริมาณการทำลายสิ่งแวดล้อม
- ข้อเสีย: อาจมีการลอก-หลุดในบริเวณรอยต่อ หรือ ขอบ ช่างผู้ติดตั้งต้องมีความประณีตในการเก็บรายละเอียด
8. วอลเปเปอร์ชนิดโฟม (Foam Wallpaper)
- ลักษณะ: โฟม เป็นวัสดุบุผนังชนิดหลังกระดาษ (Paper Back) เคลือบผิวหน้าด้วยสารพีวีซี (PVC) หรือโฟมพิมพ์สีแล้วทำการอบนูน เพื่อให้ได้ลวดลายลักษณะเด่น คือ จะมีลวดลายที่ลึกเด่นชัดมีความหนานุ่มและสามารถทำความสะอาดได้ง่ายพอสมควร เหมาะสำหรับติดตั้งในที่ที่ไม่มีฝุ่นมาก เช่น ห้องนอน ห้องปรับอากาศ สามารถบดบังความไม่เรียบร้อยของผนังได้ดีและอีกคุณลักษณะคือ มีน้ำหนักเบากว่าประเภทอื่นจึงสามารถติดบนเพดานได้ดี
- ข้อดี: ให้สัมผัสที่นุ่มนวล, ช่วยดูดซับเสียงได้ดี
- ข้อเสีย: ทำความสะอาดยาก, อาจเก็บฝุ่น
- การใช้งาน: เหมาะสำหรับห้องนอนหรือห้องที่ต้องการความสะดวกสบายและเงียบสงบ
การเลือกชนิดของวอลเปเปอร์ควรพิจารณาจากการใช้งาน และการดูแลรักษาของพื้นที่ที่จะติดตั้ง รวมถึงงบประมาณและสไตล์การตกแต่งที่ต้องการ
|